วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แอตเลติโก้ มาดริด VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แอตเลติโก้ มาดริด VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

23 กุมภาพันธ์ 2565
เวลาแข่งขัน : 03.00 น.
ราคาบอล : แอตเลติโก้ มาดริด ต่อ 0/0.5

สนามแข่ง : Estadio Wanda Metropolitano

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
-ไม่เคยพบกัน

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

แอต.มาดริด
08/12/21 ชนะ ปอร์โต้ 3-1 (เยือน)
25/11/21 แพ้ เอซี มิลาน 0-1 (เยือน)
04/11/21 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เยือน)
20/10/21 แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 (เหย้า)
29/09/21 ชนะ เอซี มิลาน 2-1 (เยือน)

แมนฯยู
09/12/21 เสมอ ยัง บอยส์ 1-1 (เหย้า)
24/11/21 ชนะ บียาร์เรอัล 2-0 (เยือน)
03/11/21 เสมอ อตาลันต้า 2-2 (เยือน)
21/10/21 ชนะ อตาลันต้า 3-2 (เหย้า)
30/09/21 ชนะ บียาร์เรอัล 2-1 (เหย้า)

ผลงาน 5 นัดล่าสุดของทั้งสองทีม

แอต.มาดริด
19/02/22 ชนะ โอซาซูน่า 3-0 (เยือน) ลา ลีกา / ต่อ0.5 … ได้
17/02/22 แพ้ เลบานเต้ 0-1 (เหย้า) ลา ลีกา / ต่อ 1.5 … เสีย
13/02/22 ชนะ เกตาเฟ่ 4-3 (เหย้า) ลา ลีกา / ต่อ 1.25 … เสียครึ่ง
06/02/22 แพ้ บาร์เซโลน่า 2-4 (เยือน) รอง ปป / เสมอ … เสีย
23/01/22 ชนะ บาเลนเซีย 3-2 (เหย้า) ลา ลีกา / ต่อ 1 … เจ๊า

แมนฯยู
20/02/22 ชนะ ลีดส์ 4-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.5 … ได้
16/02/22 ชนะ ไบรท์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.5 … ได้
12/02/22 เสมอ เซาท์แฮมป์ตัน 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … เสีย
09/02/22 เสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1 … เสีย
05/02/22 เสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 … เสีย (จุดโทษแพ้ 7-8)

ความพร้อมก่อนเกม

แอต.มาดริด

ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ อาจปรับมาเล่นหลัง 3 อีกทั้งได้แนวรับตัวหลักอย่าง เฟลิเป้ พ้นโทษแบนกลับมาประจำการร่วมกับ สเตฟาน ซาวิช และ รีนีลโด้ แต่ต้องเสีย ยานนิค การ์ราสโก้ ที่ติดโทษพักแข้งสวนกลับไป รวมถึง ดาเนี่ยล วาสส์ ที่บาดเจ็บ ขณะที่ อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าตัวหลักหายเจ็บกลับมาบนม้านั่งสำรองระหว่างเกมลีกนัดล่าสุด แต่ยังไม่น่าพร้อมออกสตาร์ท เช่นเดียวกับ หลุยส์ ซัวเรซ ก็น่าจะออกสตาร์ทอยู่ที่ม้านั่ง คาดว่า ซิเมโอเน่ คงเลือกใช้ความสดของ อังเคล กอร์เรอา และ เจา เฟลิกซ์ ลงเล่นร่วมกันก่อน

แอต.มาดริด (5-3-2) : ยาน โอบลัค – ซีเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, รีนีลโด้, เรานาน โลดี้ – มาร์กอส ยอเรนเต้, เอ็คตอร์ เอร์เรร่า, จอฟเฟรย์ ก็องด็อกเบีย – อังเคล กอร์เรอา, เจา เฟลิกซ์

แมนฯยู

แมนฯยู ของกุนซือ ราล์ฟ รังนิค ยังไม่สามารถใช้งาน เอดิสัน คาวานี่ กองหน้าจอมเก๋าที่เจ็บ แต่ไม่มีปัญหา เนื่องจากตัวรุกมีทางเลือกเยอะ และคาดว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด มีลุ้นออกสตาร์ทแทน ลินการ์ด ประสานงานกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เจดอน ซานโช่ ส่วนแดนกลางยังเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ ปอล ป็อกบา โดยมี เฟร็ด เป็นตัวสอดแรก ขณะที่ ราฟาแอล วาราน ก็น่าจะทวงตัวจริงคืนจาก วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ปักหลักกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในระบบ 4-3-3

แมนฯยู (4-3-3) : ดาบิด เด เคอา – ดิโอโก้ ดาโลต์, ราฟาแอล วาราน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส- บรูโน่ แฟร์นันด์ส, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ปอล ป็อกบา – มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เจดอน ซานโช่

ทรรศนะ

ฟอร์มเอาแน่นอนไม่ได้ทั้งคู่ แมนฯยู อาจชนะมา 2 เกมติด แต่ก็เป็นการเข้าวินเหนือ ลีดส์ กับ ไบรท์ตัน ที่ชั้นวรรณะต่ำกว่าเยอะ แถมรูปเกมก็ไม่ได่ข่มมากมาย เชื่อว่ามาเจอบอลเขี้ยวระดับแอต. มาดริด น่าจะลำบาก ถึงแม้มาตรฐาน “ตราหมี” ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม ทว่าพวกเขาทำได้ดีทุกครั้งกับเกมกดดัน เหมือนรอบแบ่งกลุ่มซึ่งบุกชนะ ปอร์โต้ ในเกมสุดท้ายพร้อมกับพลิกเข้ารอบ และเจ้าถิ่นคงเบนเข็มเต็มตัวกับการคว้าแชมป์รายการนี้ เนื่องจากสถานะในลา ลีกา ไม่เข้าทาง ประกอบกับแนวรับ “ปีศาจแดง” ก็ยังไว้ใจไม่ได้ กอปรกับพวกเขาไม่ชอบเจอคู่แข่งสไตล์แบบนี้ที่เล่นด้วยยาก ดังนั้นเลือกความชัวร์ของ แอต.มาดริด น่าจะเบียดชนะไปได้ก่อน